
ก่อนเกมแดงเดือดที่สนาม แอนฟิลด์ เมื่อวันอาทิตย์ที่ 5 เดือนมกราคมบรรดาเรารูทุกสำนักสรุปตรงกันว่า แมนยู มีแม้กระนั้นเหลวกับเหลวแน่เนื่องด้วยจำเป็นต้องบุกมาเยี่ยม หงส์แดง ในภาวะที่ด้อยกว่าแบบสุดกู่ แม้กระนั้นเอาเข้าจริงจอมบุก ผีแดง บุกมาประมือกับ ลิเวอร์พูล ได้อย่างตื่นเต้นสมกับที่เป็นเกมแดงเดือดขนานแท้ก่อนที่จะสองคู่กรณีจะแบ่งแต้มกันไปอย่างเบิกบานด้วยสกอร์ 2-2 จำพวกที่ว่าไปแล้วไม่น่าจะมีข้างไหนควรเป็นผู้แพ้ในเกมนี้เพราะเหตุว่าต่างก็ได้โอกาสคว้าสามแต้มได้ร่วมกันทั้งสอง
1. หงส์ฟูลกลุ่มได้ โกนาเต้ คืนสนาม
หงส์แดง หัวหน้าฝูง พรีเมียร์ลีก ส่ง 11 นักฟุตบอลชุดที่เหมาะสมที่สุดลงเล่นได้เมื่อ อิบราฮิม่า โกนาเต้ ปราการหลังกลุ่มชาติ ประเทศฝรั่งเศส หายเจ็บกลับมาลงเล่นรู้เท่าทันสำคัญพอดิบพอดี
ข้างหลังเจ็บหัวเข่าไปตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนโกนาเต้ กลับมาลงสู่สนามเป็นตัวจริงตอบแทน โจ โกเมซ ที่เจ็บสวนไปหมาดๆ
จากการจัดกองทัพดังที่ได้กล่าวผ่านมาแล้วของ อาร์เน่อ สล็อต เจ้าของบ้านปรับโผเพียงแค่รายเดียวเพียงแค่นั้นจากเกมออกไปขยี้ เวสต์หมูแฮม 5-0
ด้าน เฟอร์จิล ฟาน ไดค์ กัปตันเจ้าของบ้านลงเล่นเกม พรีเมียร์ลีก นัดหมายนี้ให้กับ หงส์แดง เป็นเกมที่ 216 ซึ่งเป็นสถิติที่พอๆกับ ไมเคิ่ล โอเว่น อดีตกาลแผงหน้ากลุ่มชาติ อังกฤษ
สำหรับในซุ้มม้านั่งข้างสนาม เฟเดริโก้เก๋ เคียซ่า หวนมามีชื่อติดกลุ่มเหมือนกับ คอเนอร์ กางรดลีย์ ระหว่างที่ โดมินิค โซโบซไล ไม่มีส่วนร่วมเนื่องมาจากเจ็บไข้
2. ผีพึ่งสองสตาร์พ้นโทษแบน
รูเบน อโมขอบ ที่ปรึกษากลุ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด ใช้บริการของ บรูโน่ แฟร์นันด์ส กับ มานูเอล อูการ์เต้ ตามคาดภายหลังทั้งคู่ติดโทษแบนมิได้ลงเล่นเกมที่แพ้ค้างรังให้กับ นิวค้างสเซิ่ล 2-0
ยิ่งไปกว่านี้ ค็อบบี้ รายการอาหาร ที่นัดหมายก่อนได้ลงเล่นเป็นตัวสำรองกลับมาลงสู่สนามในโผ 11 คนแรกแทนที่ กาเซมีโร่ รวมทั้ง คริสเตียน เอริคบวงสรวง ที่โดนดร็อปเหมือนกับ โจชัว เซิร์กซี่
ถึงในขณะนี้นับเป็นครั้งแรกนายใหญ่คนเมืองฝอยทองคำใช้งานสามแผงหลังหน้าเก่าเป็นหนแรกซึ่งตัวอย่างเช่น มาตไตส์ เดอ ลิกต์ ,แฮร์รี่ แม็กแกว่งร์ รวมทั้ง ลิซานโดร มาร์ตีเนซ
อย่างไรก็แล้วแต่ มาร์คัส แรชฟอร์ด ซึ่งนัดหมายก่อนกลับมามีชื่ออยู่ในกลุ่ม แต่ว่ามิได้ลุกจากม้านั่งข้างสนามพลาดการมีส่วนร่วมอีกคราวเนื่องจากว่าเจ็บป่วย
3. จิตวิทยาของ อโมขอบ
แม้ว่าจะแพ้สี่นัดหมายรวดในทุกรายการ รวมทั้งแพ้เกมลีกสามนัดหมายข้างหลังโดยที่ทำประตูมิได้เลย แม้กระนั้นเกมที่ แอนฟิลด์ ตอน 45 นาทีแรกจำต้องจัดว่า แมนฯ ยูไนเต็ด มิได้ถึงกับด้อยกว่า หงส์แดง แบบห่างชั้นอย่างที่ฉันรูหลายรายแสดงความแน่ใจ
โดยเฉพาะ ก่อนเกมแดงเดือด อโมขอบ ราวกับจะอาศัยเกมจิตวิทยาให้สัมภาษณ์กับสื่อว่าสมาชิกมีความหวาดกลัวสำหรับการเล่นมากมายไปก็เลยทำให้ไม่บางทีอาจสร้างผลงานที่ดีได้ในหลายเกมข้างหลัง
แน่ๆว่าตอนต้นเกม ลิเวอร์พูล เป็นข้างคุมจังหวะ รวมทั้งเดินหน้าทำเกมรุกได้ดีมากว่าตามเกณฑ์ แต่ว่าไม่นานเท่าไรภายหลังจากนายทัพ ผีแดง เริ่มกล้าเล่น แล้วก็มานะทำเกมรุกสู้ในทุกๆครั้งที่ได้โอกาส พวกเขาก็ก่อปัญหาให้กับเจ้าของบ้านได้ด้วยเหมือนกันโดยยิ่งไปกว่านั้นจังหวะหลุดผู้เดียวของ ฮอยลุนด์ ที่ยิงไปติดเซฟของ อลิสซง อย่างโชคร้าย
รวมทั้งจากที่มองเห็น อาจกล่าวได้ว่ามันเป็นเกมใน 45 นาทีแรกที่ดีเยี่ยมที่สุดของ อโมขอบ เลยก็ว่าได้นับจากเขาย้ายมาคุมกลุ่ม แมนฯ ยูไนเต็ด กับการนำกลุ่มบุกไปเสมอกับกลุ่มที่มีเกมรุกสุดอันตรายอย่าง หงส์แดง ได้แบบไม่มีสกอร์ประเภทที่กลุ่มเยี่ยมมิได้โดนเจ้าของบ้านบุกรัวใส่จนถึงโงหัวไม่ขึ้นราวกับที่คนอีกจำนวนไม่น้อยจินตนาการก่อนเกม
ดังจะมีความเห็นว่าสถิติข้างหลังจบครึ่งแรก ผีแดง ด้อยกว่า ลิเวอร์พูล เพียงนิดหน่อยเพียงแค่นั้นทั้งยังการครอบครองบอล 55%:45% ช่องทางสับไก 8:6 ครั้งโดยทั้งคู่กลุ่มจ่ายบอลเข้ากรอบเพียงแค่คราวเดียวเสมอกัน
4. เดอ ลิกต์ ตัวแปร
กลับสู่ช่วงหลังได้ไม่นาน ผีแดง ชิงทำประตูนำหน้าไปก่อนจากจังหวะซัลโวที่เด็ดขาดบาดตาของ มาร์ตีเนซ ซึ่งเป็นประตูแรกที่แนวรับกลุ่มชาติ อาร์เจนติเตียนน่า ยิงได้ในเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ และก็เป็นประตูแรกของเขาต่อจากเกมบู๊กับ อาร์เซน่อล วันที่ 22 เดือนมกราคม2023
เวลาเดียวกัน แมนฯ ยูไนเต็ด บุกมาสอยตาข่ายในเกมที่ แอนฟิลด์ ได้เป็นเม็ดแรกเช่นเดียวกันในรอบแทบหกปีนับตั้งแต่เดือนเดือนธันวาคม2018
อย่างไรก็ตาม จากความบกพร่องของ เดอ ลิกต์ ที่เข้าบอลทันทีจนกระทั่งข้างหลังหักให้โอกาสให้ วัวดี้ กัคโป ตีเสมอให้เจ้าของบ้านได้ แถมจอมบุกกลุ่มชาติ เนเธอร์แลนด์ ยังทำแฮนด์บอลในจุดโทษอีกต่างหากซึ่งแน่ๆว่า โม ซาลาห์ ไม่มีวันยิงพลาด แล้วก็เปลี่ยนเป็น เร้ด แมชีน ที่แซงนำ 2-1 และไม่เชื่อได้ว่านี่เป็นลูกโทษลูกแรกของ เร้ด แมชีน ในเกมแดงเดือดที่ แอนฟิลด์ ตั้งแต่แมื่อปี 1999
ข้างหลังทำประตูได้ คิงโม ตะบันประตู ผีแดงเป็นเม็ดที่ 13 แล้วใน 11 เกมข้างหลังของ พรีเมียร์ลีก รวมทั้งเป็นประตูที่ 175 ของเขาในเกม พรีเมียร์ลีก ซึ่งรั้งชั้นเจ็ดของดาวซัลโวสูงสุดชั่วกัลปวสานเท่ากัน เธียร์ปรี่ อองรี
แต่ว่าท้ายที่สุด ผีแดง เอาชีวิตรอดจากความพ่ายแพ้ได้จากลูกยิงของ อาหมัด ในนาทีที่ 80 หาไม่แล้ว เดอ ลิกต์ คงจะกลายเป็นแพะรับบาปในเกมนี้มากขึ้นไปอีก
ถึงในช่วงเวลานี้ ปีกกลุ่มชาติ ไอวอรี่ วัวสต์ วัย 22 ปีซัดประตูในเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลนี้ได้สามเม็ดแล้ว รวมทั้งเขาเปลี่ยนเป็นนักฟุตบอล แมนฯ ยูไนเต็ด รายลำดับที่สามที่ทำประตูในเกมเยี่ยม แมนฯ ซิตี้ แล้วก็ หงส์แดง ได้ในเกม พรีเมียร์ลีก ฤดูกาลเดียวกันต่อจาก เวย์น รูนีย์ ในฤดูกาล 2004/05 และก็ โรบิน ฟาน เพอร์ซี่ ในฤดูกาล 2012/13
5. หนึ่งแต้มที่มากกว่าผลเสมอ
อย่างที่บอก แมนฯ ยูไนเต็ด ถูกหยามเอาไว้มากว่าเป็นไปไม่ได้เดินออกมาจาก แอนฟิลด์ โดยมีแต้มติดมืออย่างแน่แท้เพราะว่าพวกเขาส่งผลงานเลวอย่างสม่ำเสมอ
กระนั้นดีแล้ว ผ่านมาถึงในขณะนี้บางครั้ง อโมขอบ คงจะศึกษาและทำการค้นพบกลุ่มที่พอดีที่สุดของเขาและเป็นไปได้ภายหลังทดสอบโรเตชั่แม่น้ำมมานาน และก็ปรากฏว่าเขาพาทีมบุกมาถือหนึ่งแต้มออกมาจากถิ่นของกลุ่มคู่ต่อสู้ได้เสร็จ
ไม่สามารถที่จะปฏิเสธได้ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด ยังส่งผลลัพธ์ในเกมแดงเดือดที่เมอร์ซีย์ไซด์ไม่น่าตรึงใจเนื่องด้วยพวกเขาแพ้ในนัดหมายเยี่ยมทุกรายการนานสิบเกมต่อเนื่องกันแล้ว (เสมอรวมทั้งแพ้อย่างละห้านัดหมาย) แล้วก็เป็นสถิติในทางลบที่ช้านานที่สุดของพวกเขาในเกมบุกมาเยี่ยม ลิเวอร์พูล
แต่ว่าในอีกมุม ผลเสมอ 2-2 เกมนี้มีแง่บวกสำหรับ ผีแดง เหมือนกันเนื่องด้วยพวกเขาสอยตาข่าย ลิเวอร์พูล ได้สองประตูซึ่งพอๆกับสกอร์ของการบุกมาเยี่ยม แอนฟิลด์ สิบนัดหมายที่ผ่านมา
เวลาเดียวกัน ข้างหลังจบเกม 90 นาที สถิติของ ผีแดง ก็ไม่ถึงกับไม่ดีเกินความจำเป็นแม้ว่าจะด้อยกว่าเจ้าของบ้านทั้งยังการครอบครองบอล 52%:48% แล้วก็จังหวะทำประตู 19:13 ครั้ง รวมถึงการจ่ายบอลเข้ากรอบ 6:4 ครั้งซึ่งถ้าหากจะมองโลกเป็นสีชมพูสำหรับ เร้ด เดวิลส์ ก็บางทีอาจพูดได้ว่ามันเหมาะสมเป็นจุดกำเนิดของการมีฟอร์มการเล่นที่ดีได้สักครั้งในสมัยของ อโมขอบ
โดยเฉพาะ ถ้าหาก แม็กแกว่งไกวร์ พังทลายประตูชัยให้ แมนฯ ยูไนเต็ด ในช่วงท้ายเกมได้ บางครั้งเหตุการณ์ของกลุ่มดังที่ โอลด์ แทรฟฟอร์ด บางทีอาจงดงามมากยิ่งขึ้นเป็นกอง
สนับสนุนโดยเว็บไซต์ Ufabet
|